สำหรับจัดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีเรียบร้อย
สนามทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต), ติณสูลานนท์ จ.สงขลา และช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้เสร็จสมบูรณ์พร้อมสำหรับการแข่งขันที่จะเริ่มเปิดฉากในวันที่ 8 มกราคมนี้แล้ว
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า "สำหรับวันนี้ เรามีความภูมิใจที่จะแจ้งว่าทั้ง 4 สนามประจำการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย ได้รับการปรับโฉมจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมทำการแข่งขันแล้ว"
"เช่นเคยครับ ผมต้องขอใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทุกๆ หน่วยงาน ของทุกๆ สนาม ที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จในการเตรียมความพร้อมครั้งนี้ และถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่เราได้แสดงศักยภาพของการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลระดับเอเชียได้สำเร็จ"
"เรามุ่งมั่นที่จะให้รายการนี้ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอัพเดท ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงสนามกีฬาของประเทศไทยไปในทางที่ดีเข้าระดับมาตรฐานของทวีป และถือเป็นการเริ่มต้นกระจายฟุตบอลระดับนานาชาติไปสู่ต่างจังหวัด เพื่อให้คนทั้งประเทศได้แสดงศักยภาพ"
"ความสำเร็จครั้งนี้ ผมขอมอบให้แฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคน และผมอยากขอเชิญชวนทุกๆ ท่านที่สนใจ เข้าชมฟุตบอลรายการนี้เพื่อสัมผัสบรรยากาศของฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ของเอเชีย ขณะเดียวกันร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยและร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในสนามแข่งขันทั้ง 4 แห่งครับ" นายกสมาคมฯ กล่าว
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย (AFC U23 Championship Thailand 2020) ในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 4 สาย มีดังนี้
กลุ่ม เอ (ราชมังคลากีฬาสถาน) : ไทย, อิรัก, ออสเตรเลีย, บาห์เรน
กลุ่ม บี (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) : กาตาร์, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย
กลุ่ม ซี (ติณสูลานนท์ จ.สงขลา) : อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จีน, อิหร่าน
กลุ่ม ดี (ช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์) : เวียดนาม, เกาหลีเหนือ, จอร์แดน, ยูเออี
สนันสนุนโดยเว็บไซต์ www.hazardsofmedicine.org
|