#SSxLaLiga | ปี 2022 เป็นปีที่คาริม เบนเซม่า กองหน้าของเรอัล มาดริด ได้พบกับช่วงเวลาที่ดีและร้ายปะปนกันไป ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ปี 2023 ไม่นาน เขาได้กลับคืนสู่สนาม สานต่อผลงานจากช่วงต้นฤดูกาล

ฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา เรอัล มาดริด แชมป์เก่า บุกไปเก็บ 3 คะแนน จากชัยชนะที่บ้านของเรอัล บายาโดลิด 2 - 0 โดยคาริม เบนเซม่า เหมาคนเดียวทั้ง 2 ประตู

ถือเป็นการกลับมาลงเล่นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนของดาวเตะฝรั่งเศสวัย 35 ปีรายนี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม หลังจากประสบกับอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอดช่วงก่อนพักเบรกซีซั่น

ส่วนชัยชนะของเรอัล มาดริดในนัดล่าสุด ทำให้พวกเขามี 38 คะแนน เท่ากับบาร์เซโลน่า เนื่องจากในสัปดาห์เดียวกันนั้น ทีมของซาบี้ เอร์นานเดซ เปิดบ้านทำได้แค่เสมอเอสปันญ่อล ในศึกดาร์บี้แมตช์

ฤดูกาลที่แล้ว เบนเซม่าคว้ารางวัล “บัลลง ดอร์” จากผลงานการคว้าแชมป์ลาลีกา กับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่วงด้วยดาวซัลโวของทั้ง 2 รายการ แต่ในฤดูกาลนี้ เขาต้องเจอกับปัญหาเรื่องสภาพร่างกายมาโดยตลอด

เบนเซม่า เริ่มต้นฤดูกาล 2022/23 ในลาลีกา ด้วย 3 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จาก 4 นัดแรก แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปเยือนกลาสโกว์ เซลติก เมื่อต้นเดือนกันยายน

การบาดเจ็บในครั้งแรก เบนเซม่าพักยาวเกือบ 1 เดือน แล้วกลับมาลงเล่นได้อีก 5 จาก 6 นัดหลังจากนั้น ซึ่งนัดเดียวที่ไม่ได้ลงเล่นในช่วงนี้ คือนัดที่พบกับเกตาเฟ่ เนื่องจากทางสโมสรอนุญาตให้หยุดพักเป็นกรณีพิเศษ

แม้เบนเซม่า จะกลับมายิงประตูได้ 2 นัดติดต่อกัน กับบาร์เซโลน่า และเอลเช่ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บซ้ำ ต้องพักอีก 2 สัปดาห์ จากนั้นกลับมาเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเปิดบ้านพบเซลติก ได้แค่นัดเดียว ก็เจ็บซ้ำอีกครั้ง

เบนเซม่า พยายามเรียกความฟิตอย่างสุดความสามารถ เพื่อลุ้นมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 แต่ก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งระหว่างฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติ ทำให้เขาหมดสิทธิ์ช่วยทีมไปกาตาร์ในที่สุด

เรอัล มาดริด ที่ไม่มีเบนเซม่าลงสนามในเกมลีกนั้น ยังมี 3 นักเตะอย่างวินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้ และเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ที่ต่างได้ก้าวขึ้นมารับมือการขาดหายไปของเขาได้เป็นอย่างดี โดยยิงรวมกันได้ 7 ประตู

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราชันชุดขาว ประเดิมการรีสตาร์ทนัดแรก ด้วยการบุกไปเยือนบายาโดลิด เบนเซม่า ลงเป็น 11 ตัวจริง แม้ในช่วงเริ่มเกมจะยังไม่เข้าที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ค่อยๆ กลับมามีความเฉียบคมมากขึ้น

และช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ก็เป็นเวลาของเบนเซม่าอย่างแท้จริง เมื่อยิงจุดโทษให้ทีมขึ้นนำก่อน และมาได้อีก 1 ประตู เอดูอาร์โด คามาวิงก้า แอสซิสต์มาให้ จากนั้นจับบอล 1 จังหวะ ก่อนซัดด้วยขวาตุงตาข่าย

สำหรับ 2 ประตูของเบนเซม่าในนัดล่าสุด ทำให้เขารั้งอันดับ 5 ร่วม ในทำเนียบดาวซัลโวลาลีกา ฤดูกาลนี้ ด้วยผลงาน 7 ประตู ตามหลังผู้นำอย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อยู่ 6 ลูก กับซ๊ซั่นที่ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งทาง

การกลับมาลงสนามได้อีกครั้งของคาริม เบนเซม่า ทำให้ลาลีกาในฤดูกาลนี้ เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ทั้งการลุ้นแชมป์ที่ต้องติดตามแบบนัดต่อนัด และบทสรุปของรางวัล “ปิชิชี่” ดาวซัลโวประจำซีซั่น

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa