แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พกสถิติบุกมาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 เกมหลังคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในนัดนี้ แต่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์มีข่าวดีที่แฮร์รี่ แม็คไกวร์หายเจ็บข้อเท้าฟิตพร้อมลงสนาม โดยวันนี้จับคู่กับลินเดเลิฟ และลุค ชอว์ในตำแหน่ง 3 เซ็นเตอร์ แดนกลางมีบรูโน่ แฟร์นานเดสนำทัพเหมือนเดิม ขณะที่แดเนี่ยล เจมส์ช่วยปั้นเกมให้อองโตนี่ มาร์กซิยาล

ด้านเป๊ป กวาร์ดิโอล่าปรับหลายตำแหน่งทีเดียว เริ่มจากแฟร์นานดินโญ่กลับมาเป็นตัวจริงทำให้จอห์น สโตนส์หลุดไป แดนกลางไม่มีเควิน เดอ บรอยน์ที่เจ็บหายไปเลย แต่ฟิล โฟเด้นได้โอกาสลงเป็นตัวจริงทันที นัดนี้ใช้เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นหัวหอกตัวเป้าโดยเขามีสถิติยิงยูไนเต็ด 9 ลูกรวมทุกรายการเข้าไปแล้ว

10'

ราฮีมปั่นเสาสองลามะปัดมือเดียว

เปิดเกมมาซิตี้มีโอกาสมากกว่า โฟเด้นยกบอลจากกรอบเขตโทษด้านขวาไปทางซ้ายให้ราฮีมพักอกลงก่อนตั้งป้อมปั่นย้อนไปทางเสาสองทว่าเด เคอาไม่พลาดพุ่งปัดได้ทันเวลา

15'

เจมส์กดเต็มเข้ามือเอแดร์ซอน

อเกวโร่พลาดเสียบอลกลางสนามทำให้ยูไนเต็ดไดสวนกลับเร็ว บรูโน่ไหลออกทางขวาให้เจมส์วิ่งเข้ามาอัดด้วยขวาบอลเรียดตรงกรอบแล้วทว่าเอแดร์ซอนปักหลักรับเอาไว้ได้

22'

มาเที่ยวเกี่ยวสวยยิงติดโอตาเมนดี้

โอกาสอีกหนของยูไนเต็ด วิลเลี่ยมส์ยกบอลข้ามแนวรับไปให้มาร์กซิยาลเกี่ยวลงได้สวยในกรอบเขตโทษแต่ต้องชมโอตาเมนดี้ที่ขยับลงมาขวางทางเอาไว้ทำให้บล็อคลูกยิงได้อย่างแม่นยำ

28'

มาเที่ยวมาอีกตรงตัวเอแดร์ซอน

ช่วงนี้เป็นเกมของ ปีศาจแดง มาร์กซิยาลเอาชนะแฟร์นานดินโญ่ทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษแต่ตัดสินใจไม่ส่งไปยิงเองบอลตรงกรอบก็ตรงแต่เบาและเข้ามือของเอแดร์ซอน

30'

 

บรูโน่โชว์กึ๋น!ยกเร็วมาเที่ยวตามน้ำ 1-0

ยูไนเต็ดได้ประตูขึ้นนำแล้วเป็นการเล่นฟรีคิกเร็วที่ซิตี้ยังไม่พร้อม โดยบรูโน่ยืนอยู่ที่ลูกบอลก่อนยกด้วยขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็นทางมาร์กซิยาลที่ตวัดยิงแบบไม่จับเอแดร์ซอนล้มตัวช้าทำให้ปัดไม่ออกบอลเสียบเสาเข้าไป

42'

 

เฟร็ดพุ่งในกรอบโดนเหลืองเลย

ซิตี้ใจหายวาบนึกว่าเสียจุดโทษเป็นจังหวะที่เจมส์ไหลบอลให้เฟร็ดลากเข้ากรอบเขตโทษแล้วมีโอตาเมนดี้อยู่ข้างหน้าก่อนทิ้งตัวล้มลงไป กรรมการเป่าก่อนแจกใบเหลืองให้ดาวเตะแซมบ้าข้อหาพุ่งล้ม ทว่าภาพช้าดูว่าเขาโดนสะกิดข้อเท้านิดนึงจริง

HALF TIME

49'

 

กุนซัดตุงโดน VAR ยึดคืน

อเกวโร่ส่งบอลไปตุงตาข่ายแล้วจากจังหวะได้บอลหลุดไปซัดด้วยขวาผ่านเด เคอาไปตุงตาข่ายทว่ากรรมการย้อนดู VAR แล้วลากเส้นปลายเท้าของดาวยิงอาร์เจนไตน์ล้ำหน้าไปนิดเดียว

59'

 

เป๊ปเปลี่ยนสองคนเลย

กวาร์ดิโอล่าตัดสินใจเปลี่ยนทีเดียวสองคนเลย โดยเอาอเกวโร่กับแบร์นาร์โด้ ซิลวาออกแล้วส่งกาเบรียล เชซุสกับริยาด มาห์เรซลงสนามมาเล่นแทนในช่วง 30 นาทีที่เหลือ

60'

โอตาเมนดี้ได้โขก

คอนเนอร์ด้านซ้ายของ เรือใบสีฟ้า กุนโดกันเปิดบอลเข้ามาทางเสาแรกแล้วเป็นโอตาเมนดี้ ที่พุ่งมาโฉบได้โขกทว่าบอลก็ข้ามคานออกไปเท่านั้น

63'

โฟเด้นลองส่องไกล

ซิตี้มาได้ลุ้นอีกรอบจากจังหวะที่โฟเด้นได้ลองยิงด้วยซ้ายนอกกรอบทว่าบอลก็ยังไปติดบล็อคไม่มีอะไร แต่ช่วงที่ผ่านมาซิตี้ก็ครองเกมได้มากกว่าในครึ่งแรกเหมือนกัน

72'

ชอว์เดี้ยงยังเล่นต่อไหว

ชอว์มีอาการเจ็บทำให้หมอต้องลงมาดูอาการอยู่พักใหญ่แล้วข้างสนามเอริก ไบญี่ยืนขึ้นมาเหมือนจะได้ลงสนามแต่สุดท้ายชอว์ยังฝืนเล่นต่อไปได้เหมือนเดิม

74'

เชซุสได้ยิงลามะโชว์เซฟ

เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตูตีเสมอเลย เป็นทางกาเบรียล เชซุสลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนสับขาหลอกแล้วยิงทันทีทว่าเด เคอายังเซฟเอาไว้ทันไม่เสียประตูไป

80'

เรือพับสนามผีรับแน่นปึ้ก

ท้ายเกมเป็นทางซิตี้ที่พับสนามบุกเลยโดยยูไนเต็ดถอยลงไปตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและยังไม่พลาดทำให้ยังสามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ต่อไปก่อนเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย

90'

ราฮีมยิงปุยนุ่น

ก่อนหมดเวลาคันเซโล่เติมขึ้นมาทางขวาก่อนครอสเข้ากลาง ราฮีมพักบอลลงหน้ากรอบเขตโทษก่อนยิงทันทีแต่บอลเบาเหลือเกิน เด เคอารับสบายเลย

 

 

เอแดร์ซอนพลาด!ผียิงอีกชนะ 2-0

ทดเวลานาทีที่ 6 เอแดร์ซอนออกบอลพลาดไปเข้าตีนของแม็คโทมิเนย์ยิงสวนตูมเดียว 2-0 หมดเวลาการแข่งขัน ยูไนเต็ด ยันสกอร์เอาไว้ทำให้คว้าชัยแบบไปกลับในเกมดาร์บี้ฤดูกาลนี้ พร้อมไล่หลังเชลซี 3 คะแนนเหมือนเดิม มองอันดับ 3 ได้เลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ คาสิโนออนไลน์