แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ กูรูคนดังมองว่าการลงจากตำแหน่งนายใหญ่ ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่ทำให้สโมสรเจอกับความตกต่ำเหมือนที่เกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ
"แม้จะเจอกับความช็อคที่ คล็อปป์ กำลังจะอำลาตำแหน่ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องประสบชะตากรรมเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการพยายามหาตัวแทนของ เซอร์อเล็กซ์ ข่าวนี้จะเป็นตัวกระตุ้นนักเตะไปตลอดฤดูกาลที่เหลืออยู่ และผมคงไม่แปลกใจหากว่า ชาบี อลอนโซ่ ได้รับการคอนเฟิร์มเป็นผู้จัดการทีมก่อนถึงตลาดซัมเมอร์ เพื่อการเปลี่ยนถ่ายที่เป็นระบบ นักเตะมักจะมีความเห็นแก่ตัว ชัดเจนว่าพวกเขาเข้ากับ คล็อปป์ ได้ดีมาก ๆ แต่พวกเขาก็ตระหนักว่าจะต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้จัดการทีมคนถัดไป ผู้จัดการทีมคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม เขาจะศึกษาเกมของลิเวอร์พูลทุกนัดก่อนทำการตัดสินใจสำหรับซีซั่นต่อไป"
"หากว่ามีผู้เล่นคนใดที่ไม่ได้ปฏิบัติตัวด้วยแนวทางเดิมกับที่พวกเขาทำ ก่อนได้ยินข่าวเกี่ยวกับ เยอร์เก้น คนเดียวที่จะเสียผลประโยชน์ก็คือตัวพวกเขา ถ้าจะมีอะไรสักอย่าง คุณอาจจะได้เห็นความเข้มข้นและระดับผลงานที่เพิ่มสูงขึ้น มันอาจจะเป็นตัวกระตุ้นก็ได้ ไม่มีการการันตีเวลาที่ใครสักคนที่ประสบความสำเร็จ มีเสน่ห์ และโด่งดังเหมือนกับ คล็อปป์ ย้ายออกไป แต่ว่า FSG ก็ทำการแต่งตั้งผู้จัดการทีมมาแล้ว 3 คน - เคนนี่ ดัลกลิช, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และคล็อปป์ ซึ่งทุกคนล้วนประสบความสำเร็จในแนวทางของตัวเอง สำหรับการดึงสโมสรออกมาจากจุดตกต่ำเมื่อปี 2010"
"ความแตกต่างระหว่างลิเวอร์พูลในปี 2024 กับยูไนเต็ดและอาร์เซนอลเมื่อ 10 ปีที่แล้วคือ เฟอร์กี้ และอาร์แซน เวนเกอร์ มีอำนาจเด็ดขาดในทุก ๆ อย่างของสโมสร พวกเขาอยู่ทำงานกันมา 20 ปี และเป็นส่วนหนึ่งของยุคสมัยที่ผู้จัดการทีมมีอำนาจทั้งหมด แต่ว่าฟุตบอลมันเปลี่ยนไปแล้ว แม้ว่าทีมงานคนอื่น ๆ จะย้ายออกไปพร้อมกับผู้จัดการทีม แต่ทางเบื้องบนก็ได้วางโครงสร้างที่ไม่ได้หวังพึ่งพาบุคคลคนเดียวเอาไว้ คุณรู้สึกได้ว่าทุก ๆ อย่างที่ยูไนเต็ดต้องผ่าน เฟอร์กี้ ซึ่งมันทำให้เกิดหลุมอากาศขนาดใหญ่ตอนที่เขาก้าวลงจากตำแหน่ง ฟุตบอลมันไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว"
"หนึ่งในประโยชน์ของการที่ เยอร์เก้น ประกาศเรื่องนี้คือสโมสรสามารถเปิดเผยในเรื่องการค้นหาตัวแทนของเขาได้ นี่คืองานในฝันสำหรับใครสักคน เพราะพวกเขาจะได้รับมรดกเป็นขุมกำลังอายุน้อยที่มีความกระหายและมีพรสวรรค์ อันที่จริงแล้ว จังหวะเวลามันอาจจะเหมาะเจาะสุด ๆ เพราะอลอนโซ่ กำลังแจ้งเกิดเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมโดยการเป็นจ่าฝูงของบุนเดสลีก้ากับ เลเวอร์คูเซ่น สิ่งนี้ดูเพอร์เฟ็คต์มาก