ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่าเห็นทีมรักเหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่างแต่เป็นผู้จัดการทีมตัวเองที่ “แก้เกม” ให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนเหมือนยื่นแชมป์แบบทางอ้อม
บีญาร์เรอัล แสดงตัวชัดเจนว่าวันนี้มา “อุด” อย่างเดียวและประเด็นคือสวนไม่ขึ้น ผู้เล่นเอาตัวรอดในพื้นที่แคบๆไม่เก่งเอาซะเลย
เราจึงได้เห็น แมนฯยูฯ ขึงเกือบแทบจะทั้งเกมโดยใช้การเพรสหนักๆเพื่อกดให้บอลเสียในแดนของ ”เรือดำน้ำ”
ด้วยการที่ อูไน ซื้อ “เกมรับ” ที่เล่นอย่างมีวินัย+ความป้อแป้ของฝั่ง ยูไนเต็ด ตลอด 90 นาทีเป็นเกมที่ไม่ได้สนุกอย่างที่หลายคนตั้งใจไว้
“ปีศาจแดง” ไม่ควรตกเป็นรองตั้งแต่แรกแล้วครับหากไม่พลาดปัญหาเดิมๆกับลูก “เซ็ตพีซ” ที่ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ตามองบอลอย่างเดียวก็ยังอุตสาห์ปล่อย เกราร์ด โมเรโน่ รองดาวซัลโว ลา ลีกา สอดมายิงได้ซะงั้น
การตามหลังก่อนมาดิ้นรนตีเสมอก็น่าอึดอัดพออยู่แล้ว
แต่การที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กลับเปลี่ยนตัว “เอื้อ” ฝั่งตรงข้ามโดยเฉพาะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ถ้าไม่เรียกว่า “ปอดแหก” จะให้เรียกว่าอะไร
ให้ความรู้สึกเหมือน “คนเหนือกว่า” พยายามยื้อเกมเพื่อไปดวลจุดโทษซึ่งมาเวย์นี้ อูไน เอเมรี่ ลูบปากรอสิครับ
100 นาทีไม่มีการขยับใดๆจนกระทั่งมาเปลี่ยนหนแรกก็เอาตัวดีออกส่วนที่เหลือก็เปลี่ยนเพื่อเอาคนยิงจุดโทษลงมา
จนถึงบัดนี้ เร้ดอาร์มี่ ก็ยังไม่เข้าใจว่า “น้าลูกอม” คิดอย่างไรถึงถอด เมสัน กรีนวู้ด ออกในช่วงต่อเวลาและส่งตัวรับอย่าง เฟร็ด ลงมาแทน
ถ้าเป็นเคสนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ควรเป็นคนที่ต้องสลับกับ กรีนวู้ด มากกว่าเพราะฟอร์มการเล่นวันนี้ของ “แรช” ห่างไกลจากคำว่าสร้างประโยชน์เอามากๆ
จะอ้างว่าตัวสำรองไม่มีใครทดแทนได้แต่มันไม่ปกติแล้วนะครับที่จะไม่ขยับทำอะไรเลยจนกระทั่ง 100 นาทีเช่นส่ง เฟร็ด แทน แรช แล้วดัน ป็อกบา ไปยืนซ้ายซึ่งแกก็เคยเล่นตำแหน่งนี้แล้วทำได้ดีมาแล้ว คนดิ้นรนเพื่อคว้าชัยมันต้องแนวนี้ครับ
ผิดกับ อูไน หลังถูกตีเสมอ 5 นาทีก็ถอดเอา คาร์ลอส บัคค่า กองหน้าออกแล้วยัด ฟรอสซิส โกเกอแล็ง กลางรับทันทีเนื่องจากรู้ว่า “ปีศาจแดง” กำลังคึกพร้อมเร่งเอาประตูขึ้นนำแน่ๆ
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ King Maker
|