หงส์ขอบอกโลกว่าข้าตายยากอีกครั้ง-มหาเทพเกือบมอบของขวัญให้ อาร์เซน่อล-เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจเกม ลิเวอร์พูล เฉือนหวิว ไบรท์ตัน
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล นำทัพ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ แซงกลับมาชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม ทำให้ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว
ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนนจากการลงเตะไปแล้ว 29 นัด ทิ้ง อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 และ 4 คะแนนตามลำดับ ก่อนที่ "เรือใบสีฟ้า" จะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับมือ "ปืนใหญ่" ในเกมคู่ดึกคืนวันเดียวกันนี้
จากชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้มี 5 ประเด็นน่าสนใจดังนี้
1. หงส์ได้ นูนเญซ แต่ยังไร้ร็อบโบ้
ก่อนเกมนี้ คล็อปป์ ต้องรอประเมินอาการเจ็บข้อเท้าของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายคนเก่งที่บาดเจ็บระหว่างกลับไปเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ลิเวอร์พูล ยังต้องเช็กความฟิตของ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย และ อิบราฮิมา โกนาเต้ ปราการหลังชาวฝรั่งเศส อีกด้วย
สุดท้ายแล้วมีแค่ นูนเญซ ที่ได้กลับมาลงตัวจริง ทำให้ โจ โกเมซ ต้องโยกมายืนแบ็กซ้ายอีกครั้ง ขณะที่คู่เซนเตอร์แบ็กให้ จาเรลล์ ควอนซาห์ ลงมายืนคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
2. มหาเทพเกือบส่งของขวัญให้ปืน
เกมนี้ ไบรท์ตัน ทำช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น หลังได้ประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากลูกยิงของ แดนนี่ เวลเบ็ค อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล
มหาเทพเวลบิอุส ใช้เวลาแค่ 87 วินาที ยิงใส่ ลิเวอร์พูล และกลายเป็นประตูเร็วสุดที่ทีมเยือนมายิงที่ แอนฟิลด์ ในเกม พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ สเปอร์ส มาทำได้เมื่อเดือนตุลาคม 2019 (แฮร์รี่ เคน 47 วินาที)
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก หลุยส์ ดิอาซ ในนาทีที่ 27 ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยิงนำ 2-1 นาที 65
3. บังโมชอบเจอ ไบรท์ตัน
โม ซาลาห์ มีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้งในครึ่งแรกแต่พลาดไปหมด ก่อนที่จะมายิงได้ในครึ่งหลังและกลายเป็นประตูชัยในที่สุด
ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในเวลาที่ลงเล่นกับ ไบรท์ตัน ใน พรีเมียร์ลีก หลังมีส่วนรวมกับ 15 ประตู (ยิง 9 ลูก และทำ 6 แอสซิสต์) กลายเป็นคู่แข่งที่ตัวเองทำได้มากสุด
นักเตะ ลิเวอร์พูล มีแค่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ยิงประตูและแอสซิสต์ใส่คู่แข่งทีมเดียวมากกว่า ซาลาห์ โดย สตีวี่จี ทำไว้ในการเจอ นิวคาสเซิ่ล (มีส่วนร่วม 16 ประตู ยิง 8 แอสซิสต์ 8)
4. หงส์ คิง ออฟ คัมแบ็ก
ก่อนลงเล่นเกมนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่กลับมาเก็บได้ถึง 23 คะแนนหากโดนคู่แข่งยิงนำไปก่อนในฤดูกาลนี้ มากสุดในบรรดาทีม พรีเมียร์ลีก
นี่เป็นอีกนัดที่ คล็อปป์ นำทีมกลับมาเก็บคะแนนได้หลังถูกนำไปก่อน และคิดรวมได้แล้วเป็น 26 แต้ม ทำให้เป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้ลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้
ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ รั้งอันดับสองทีมที่กลับมาเก็บคะแนนได้มากสุดหากโดนคู่แข่งยิงนำไปก่อน โดยทำได้ 21 แต้ม
5. ลุ้นดาวซัลโวสนุกไม่แพ้ลุ้นแชมป์
ฤดูกาลนี้การลุ้นแชมป์ระหว่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ เต็มไปด้วยความสูสี และเบียดกันผลัดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
ขณะที่รางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ก็ลุ้นสนุกไม่แพ้กัน หลัง ซาลาห์ ยิงได้หนึ่งประตูในนัดนี้ ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 16 ลูก
ซาลาห์ ขึ้นไปเป็นรองดาวซัลโวร่วมกับทั้ง โดมินิค โซลันกี้ กองหน้า บอร์นมัธ และ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ดาวยิง แอสตัน วิลล่า ขณะที่ผู้นำยังเป็น เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ ที่ 18 ประตู
นอกจากนั้นยังมีคนที่ไล่ตามมาไม่ห่างอย่าง ซน ฮึง มิน กองหน้า สเปอร์ส และ จาร์ร็อด โบเว่น ปีก เวสต์แฮม ที่ 15 ประตู รวมทั้ง อเล็กซานเดอร์ อิซัค หัวหอก นิวคาสเซิ่ล ที่ซัดไปแล้ว 14 ประตู
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa
|