แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พิจารณาที่จะขายลิขสิทธิ์ชื่อสนามในอนาคต หลัง เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ กำลังมองหาเงินมาสมทบโปรเจ็คท์ปรับปรุงรังเหย้าหรือไม่ก็สร้างขึ้นมาใหม่
แมนฯ ยูไนเต็ด พูดคุยกับสถานบันการเงินชั้นนำหลายเจ้ารวมถึงแบงค์ อออฟ อเมริกา เพื่อมองหาทางเลือกสำหรับทุนที่จะนำมาใช้ในโปรเจ็คท์ที่อาจมีมูลค่าระดับหลายพันล้านปอนด์
พวกเขาปฏิเสธที่จะให้คอมเมนต์ถึงข่าวดังกล่าว แต่แหล่งข่าวของสโมสรบอกกับ
The Athletic
ว่าแม้จะมีการพูดคุยเกิดขึ้นแต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกิดขึ้น
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าสโมสรหรือ INEOS บริษัทที่ แรทคลิฟฟ์ เป็นเจ้าของนั้นจะเป็นฝ่ายแบกภาระหนี้เอาไว้หากมีการยืมเงินมาลงทุนในโปรเจ็คท์ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ผลประกอบการไตรมาสสองที่ “ปีศาจแดง” รายงานนั้นระบุว่ายังมีหนี้สินรวมทั้งหมด 653.3 ล้านปอนด์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากสิ่งที่ ตระกูลเกลเซอร์ ทำไว้ก่อนขายหุ้นให้ แรทคลิฟฟ์ และมอบอำนาจการบริหารด้านฟุตบอลให้เขา
รายงานผลประกอบการยังเปิดเผยว่าเงินอัดฉีด 120 ล้านปอนด์จาก แรทคลิฟฟ์ ได้ถูกนำมาใช้กับสโมสรแล้วทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและจ่ายสินเชื่อหมุนเวียน
คาดหมายว่าแท็คติกของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นอาจเป็นการลดหนี้ในส่วนของสินเชื่อที่ดอกเบี้ยสูง แล้วหาทางไปกู้ยืมผ่านช่องทางอื่นที่มาพร้อมดอกเบี้ยต่ำกว่าและนำไปใช้กับการปรับโครงสร้างพื้นฐาน
สนามของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักในชื่อ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาตลอดระยะเวลา 114 ปีและไม่เคยมีการขายลิขสิทธิ์ชื่อสนามมาก่อน
สำหรับในอังกฤษนั้นแฟนบอลไม่ค่อยชอบใจเพราะพวกเขาเชิดชูประวัติศาสตร์ของชื่อสนาม แต่สนามที่สร้างใหม่ในช่วงหลังเช่นของ อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นมีการขายลิขสิทธิ์ให้กับสายการบินอย่าง เอมิเรตส์ และ เอติฮัด ซึ่งทั้งสองยังกลายเป็นสปอนเซอร์คาดอกของสโมสรด้วย
หากพวกเขาเลือกจะปรับปรุงรังเหย้า ก็อาจจะเลือกเก็บชื่อ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เอาไว้และนำชื่อของสปอนเซอร์มาเสริม อย่างเช่นชื่อสนาม เวมบลีย์ ในปัจจุบันก็มีห้อยท้ายว่า “connected by EE” หรืออย่าง บาร์เซโลน่า ที่ตอนนี้รังเหย้าของพวกเขาชื่อ สปอติฟาย คัมป์นู
อย่างไรก็ตามหาก แมนฯ ยูไนเต็ด เลือกก่อสร้างสนามใหม่ พวกเขาอาจยอมขายลิขสิทธิ์ชื่อสนามไปเลย ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะได้เงินหลายสิบล้านปอนด์เป็นการตอบแทน
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa