ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2024/2025 ได้ทีมครบ 36 สโมสรเรียบร้อยแล้ว และจะมีการจับสลากอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคมนี้

สหพันธฺฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันศึกชิงโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" แบบใหม่โดยไม่ได้ใช้ระบบแบบรอบแบ่งกลุ่มอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นระบบที่คล้ายกับแบบลีกแทน และจะมีการเล่นกันทั้งหมด 8 นัด นั่นหมายความว่าจะไม่มีการเจอกันแบบเหย้า-เยือนกับคู่ต่อสู้รายเดียวกันแบบที่เคยทำในรอบแบ่งกลุ่มอีกต่อไป

วิธีการจับสลากนั้นจะเริ่มจากการแบ่งเป็น 4 โถ โดยวัดตามค่าสัมประสิทธิ์ของ ยูฟ่า ยกเว้นแชมป์เก่าของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะได้เป็นทีมวางอันดับ 1 ในโถ 1 โดยอัตโนมัติ  และให้คนจับสลากหยิบทีมจากโถ 1 ขึ้นมา 1 ทีม หลังจากนั้นจะมีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการสุ่มคู่แข่งขึ้นมา 8 ทีม

แต่ละสโมสรจะเจอทีมครบทุกโถ ต่อให้จะอยู่ในโถเดียวกันก็ตาม โดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่เจอกับทีมจากชาติเดียวกับของตัวเอง นอกจากนี้ แต่ละทีมก็มีโอกาสเจอคู่แข่งจากชาติที่มาจากลีกเดียวกันได้สูงสุด 2 ทีมด้วย

โถ 1 :

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), เรอัล มาดริด (สเปน), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), บาร์เซโลน่า (สเปน)

โถ 2 :

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), อตาลันต้า (อิตาลี), ยูเวนตุส (อิตาลี), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), อาร์เซน่อล (อังกฤษ), คลับ บรูก (เบลเยียม), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค  (ยูเครน), เอซี มิลาน (อิตาลี)

โถ 3 :

เฟเยนูร์ด (เนเธอร์แลนด์), สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส), พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เนเธอร์แลนด์), ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย), เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), ลีลล์ (ฝรั่งเศส), เรดสตาร์ เบลเกรด (เซอร์เบีย), ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์), กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์)

โถ 4 :

สโลวาน บราติสลาวา (สโลวาเกีย), โมนาโก (ฝรั่งเศส), สปาร์ต้า ปราก (เช็ก), แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ), โบโลญญ่า (อิตาลี), จีโรน่า (สเปน), สตุ๊ตการ์ท (เยอรมนี), สตวร์ม กราซ (ออสเตรีย), แบรสต์ (ฝรั่งเศส)

ทั้งนี้ แต่ละทีมจะลงดวลกับทีมจากแต่ละโถแบบเหย้ากับเยือนอย่างละ 1 นัด ยกตัวอย่างเช่น ทีม A ได้เฝ้าบ้านเจอทีม B จาก โถ 1 เป็นจำนวน 1 นัด และไปเยือนทีม C จาก โถ 1 อีกทีมเป็นจำนวน 1 นัด ตามด้วยเฝ้าบ้านเจอทีม D จาก โถ 2 เป็นจำนวน 1 นัด และไปเยือนทีม E จากโถ 2 อีกทีมเป็นจำนวน 1 นัด ต่อจากนั้นก็เปิดบ้านเจอทีม F จาก โถ 3 แล้วไปเยือนทีม G จากโถ 3 ก่อนที่จะเปิดบ้านดวลทีม H จากโถ 4 และปิดท้ายด้วยการไปเยือนทีม I จากโถ 4

ทีมที่มีผลงานดีที่สุด 8 อันดับแรกจะได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ส่วนทีมที่มีผลงานในอันดับที่ 9-24 จะต้องมาดวลกันแบบเหย้า-เยือน กับคู่แข่งรายใดรายหนึ่งเพื่อชิงตั๋วอีก 8 ใบที่เหลือ ส่วนทีมที่มีอันดับ 25 ลงไปจะถือว่าตกรอบไปเลย และจะไม่ได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก ในซีซั่นเดียวกันด้วย

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet