การแข่งขัน: คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศวันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2021เวลาแข่งขัน: 02:45 น. ตามเวลาประเทศไทยผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล (5) 3-3 (4) เลสเตอร์สนาม: แอนฟิลด์
เลสเตอร์ เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนหลังกดดันแนวรับของ ลิเวอร์พูล ได้อยู่สักพักจาก เจมี่ วาร์ดี้ ในนาทีที่ 9 ก่อนที่อีก 4 นาทีต่อมา ดาก้า จะจ่ายให้เขาได้แทปอินนิ่มๆทิ้งห่างเป็น 0-2นาทีที่ 19 ซิมิกาส ครอสมาให้ เนโก วิลเลียมส์ โขกให้ ฟีร์มิโน สะกิดคืนหลังให้ แชมเบอร์เลน วิ่งมาซัดไล่ตามมา 1-2แมดดิสัน ซัดไกลนาทีที่ 33 ทิ้งห่างเจ้าบ้านก่อนจบครึ่งแรกคล็อปป์ ออกสตาร์ทครึ่งหลังด้วยการส่งสามแข้งซีเนียร์ลงมาทันที และก็ได้ผลดีเสียด้วยเพราะ ลิเวอร์พูล กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าบ้างแล้วนาทีที่ 68 มินามิโนะ จ่ายให้ โชต้า แหวกไปยิงไล่ตีตื้นมาเป็น 2-3 ช่วงทดเจ็บ มิลเนอร์ โยนบอลให้ มินามิโนะ พักอกหลุดไปยิงตีเสมอได้สำเร็จ จนต้องลากยาวไปถึงการดวลจุดโทษ
เตเลม็องส์ – เข้ามิลเนอร์ – เข้าแมดดิสัน – เข้าฟีร์มิโน – เข้าอัลไบรท์ตัน – เข้าออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน – เข้าโธมัส – พลาดเกอิต้า – เข้าอิเฮียนาโช – เข้ามินามิโนะ – พลาดเบอร์ทรานด์ – พลาดโชต้า – เข้า
เคลเลเฮอร์ (5), แบรดลีย์ (5), โกเมส (4), คูเมติโอ (2), ซิมิกาส (5), เฮนเดอร์สัน (4), มอร์ตัน (3), ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (7), มินามิโนะ (7), ฟีร์มิโน (6), วิลเลียมส์ (5)สำรอง: โคนาเต้ (6), โชต้า (8), มิลเนอร์ (7), เกอิต้า (7), เบ็ค (N/A)
คงไม่มีใครตำหนิ เยอร์เกน คล็อปป์ ที่โรเตชั่นไปยกทีมแบบนี้หลังจากที่เพิ่งจะผ่านเกมอันดุเดือดกับ สเปอร์ส มาหมาดๆ และมันก็ดูเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเสียด้วยเมื่อเหล่าแข้งสำรอง – ที่เป็นตัวหลัก ได้โอกาสลงมาวาดลวดลายและเปลี่ยนโมเมนตั้มของเกมไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในรายของ ดิโอโก โชต้า ที่มาพร้อมกับประตูปลุกความฮึกเหิมที่นำไปสู่การคว้สชัยพร้อมตบเท้าเดินหน้าเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ fifa55