![](https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2021/12/%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A3-728x410.jpg)
“บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021/2022 เปิดเผยภายหลังจบงานเลี้ยงขอบคุณผู้สนับสนุน ประจำปี 2564 ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ตอนนี้บุรีรัมย์นำเป็นจ่าฝูง และจะนำม้วนเดียวคว้าแชมป์ไทยลีกในฤดูกาลนี้ให้ได้ เพื่อเป้าหมายคว้าโควต้าลุยถ้วยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงตั้งเป้าผ่านเข้าสู่รอบลึกของถ้วยเอเชียให้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายในฤดูกาลนี้ที่เราได้มีการปรับทีม
นายเนวินกล่าวอีกว่า สำหรับการคว้าตัว “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายทีมชาติไทย วัย 31 ปี ดีกรีแชมป์เจลีก 1 ของญี่ปุ่นจากสโมสรโยโกฮาม่า เอฟ.มารินอส กลับมาสู่ถิ่นอีสานใต้อีกครั้งในรอบ 6 ปี ในช่วงเลกสองฤดูกาลนี้ มันเป็นวิถีฟุตบอล จริงๆ แล้วดีลการย้ายผู้เล่นต้องเกิดขึ้นบนข้อตกลงของ 3 ฝ่าย ก็คือ สโมสรต้นสังกัด, สโมสรที่จะรับโอน และตัวผู้เล่นด้วยว่าเงื่อนไข ข้อตกลง และความตั้งใจเป็นอย่างไร
“เขากลับมาก็คงมีเป้าหมายที่เขาอยากจะเล่นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ดีที่สุด เพื่อจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในประเทศไทย และเวทีเอเชีย ส่วนความคาดหวังนั้น อุ้มก็คือผู้เล่นคนหนึ่ง ระบบบุรีรัมย์ไม่มีผู้เล่นซุปเปอร์สตาร์อยู่แล้ว ระบบบุรีรัมย์ คือ ระบบทีม เพราะฉะนั้นเราวางแผนไว้อยู่แล้วว่าใครมาก็เหมือนจิ๊กซอว์ เขาจะทำให้ฝั่งซ้ายแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะในเลกแรก เราต้องใช้ ปิยพล ผานิชกุล ไปเล่นฝั่งซ้าย แต่ตอนนี้ เรามีทั้ง ธีราทร และศศลักษณ์ ไหประโคน กลับมา ซึ่งมันก็จะทำให้ทีมเราเวลาโรเตชั่นแข็งแกร่งขึ้น”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงค่าตัวของธีราทร ในการย้ายกลับคืนสู่ถิ่นบุรีรัมย์ในครั้งนี้ นายเนวินตอบชัดเจนว่า 200,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.7 ล้านบาท) เท่านั้น และคงไม่มีบิ๊กดีลแล้ว เพราะชุดที่มีอยู่ก็ทำให้โค้ชปวดหัวแล้ว ด้วยผู้เล่นที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ส่วนการเลือกตัวจริงเราก็จะดูจากคนที่ซ้อมได้ดีที่สุด อีกทั้งยืนยันว่า ตำแหน่งของธีราทร และศศลักษณ์ ไม่ทับกันอยู่แล้ว เพราะสามารถโรเตชั่นได้ ปรับเปลี่ยนได้ โดยทาง มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นคนใหม่ได้เข้ามาวางระบบในการฝึกซ้อม ทำให้เชื่อว่าเราจะได้เห็นบุรีรัมย์ในอีกมิติหนึ่งแน่นอน
ทั้งนี้ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายในวัย 31 ปี จะอยู่กับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ฤดูกาล พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ฤดูกาล โดยจะได้รับค่าเหนื่อย 1.2 ล้านบาทต่อเดือน และจะสวมเสื้อหมายเลข 2 เบอร์เก่าที่เคยใช้กับยอดทีมแห่งแดนอีสานใต้อีกครั้ง
“ต้องยอมรับว่า ในเลกสอง ทั้งเอซีแอล, ฟุตบอลถ้วย และฟุตบอลลีก เราจะเห็นว่าโปรแกรมเตะถี่มาก เพราะฉะนั้นตัวผู้เล่นต้องพร้อมที่จะโรเตชั่น แล้วทำให้มาตรฐานของทีม รวมถึงสปีดบอลไม่ลดลง ซึ่งผมเชื่อว่าประสบการณ์ของ มาซะ ที่เคยทำคาชิม่า แอนท์เลอร์ส และเป็นแชมป์เอเชียมา เขามีความเข้าใจในระบบของแชมเปี้ยนส์ลีก และเอเชีย มากกว่าโค้ชทุกคนที่เราเคยมีมา เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่าถ้ามีเวลาสัก 2 เดือน ทีมจะลงตัวมาก”
นายเนวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัญหาในตอนนี้คือ นักเตะที่ไปรับใช้ทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ไม่มีเวลาซ้อมกับทีมเลย พอกลับมาถึงเมืองไทยโดยสถานการณ์ก็ยังไม่แน่ใจอีกว่าไทยลีกจะเปิดเลกสองในวันที่ 8-9 มกราคม 2565 ได้หรือไม่ เพราะถ้าทีมชาติไทยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 1 มกราคม 2565 นักเตะเดินทางกลับไทยวันที่ 3 มกราคม 2565 และต้องกักตัวอีก 7 วัน หมายความว่าวันที่ 10 มกราคม 2565 นักเตะจะกลับไปเข้าทีมได้ และใช้เวลาในการซ้อมปรับตัวเข้ากับทีม
นอกจากนี้ ประธานสโมสรปราสาทสายฟ้า กล่าวในตอนท้ายว่า ตอนนี้กำลังรอลุ้นเรื่องขององค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ที่ลงโทษแบนประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าสามารถจัดการได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2565 ทางบุรีรัมย์เตรียมยื่นเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในการประชุมของเอเอฟซี ซึ่งจะเป็นโอกาสของสโมสรไทยทั้งหมดที่จะได้เข้าไปเล่นในเอซีแอล รอบแบ่งกลุ่ม
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa
|